บทที่ 1 หมาพื้นเมืองที่หล่อเหลาตัวหนึ่ง
แสงจันทร์ละมุนละไม
หญิงสาวผมยาวคนหนึ่งเดินอยู่เพียงลำพังในตรอกเล็ก ๆ ชุดแซ็กสีแดงห่อหุ้มร่างกายที่อรชรของเธอ ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งก็โฉบลงมาจากฟ้า ปิดกั้นทางเดินของเธอ หญิงสาวหยุดฝีเท้าอย่างตื่นตระหนก ผู้ชายงอหลังค้อมตัวลง แล้วเงยหน้าเล็กน้อยมองมาทางเธอ
ดวงตาของเขามีแสงสีเขียววาบออกมา อ้าปากเผยเขี้ยวคู่หนึ่งให้เธอเห็น
“กรี๊ดดดดดดด--!!”
เสียงกรีดร้องแหลมของหญิงสาวทะลุท้องฟ้ายามค่ำคืน ฟังแล้วแสบแก้วหูเป็นพิเศษ
ท่ามกลางความมืดยามราตรีมีเสียงฝีเท้าที่คล้ายมีคล้ายไม่มีดังแว่วมา ชายหนุ่มที่สง่างามคนหนึ่งเดินมาทางพวกเขา บนร่างกายของชายหนุ่มสวมชุดดินเนอร์สูทเต็มยศสีดำสุดเนี้ยบ ดูไปแล้วเหมือนกับพวกขุนนางจากยุคกลาง เขามองผู้ชายคนนั้นเพียงแวบเดียว ผู้ชายคนนั้นก็รีบหมุนตัวเผ่นหนีไปเลย
หญิงสาวที่ยังคงตกอยู่ในความแตกตื่นหันไปมอง แล้วก็ถูกเขาดึงดูดความสนใจไปหมดสิ้น
ผู้ชายคนนี้ช่างดูดีเหลือเกินจริง ๆ
“คัท!” ผู้กำกับถือโทรโข่งตะโกนสั่งหยุด แล้วก็สั่งทีมงานในพื้นที่ทำงานซึ่งกำลังขยับตัวทำงานกัน “ฉากนี้ผ่านแล้ว เดี๋ยวถ่ายโคลสอัพสีหน้าและอารมณ์อีกหน่อย วันนี้ก็เลิกกองได้แล้ว”
ได้ยินประโยคนี้ทุกคนต่างผ่อนหายใจด้วยความโล่งอก ทำให้การเตรียมงานต่อไปยิ่งกระฉับกระเฉงขึ้น เฟิงจิ้งเดินมาที่ด้านข้างเพียงคนเดียว แล้วดื่มน้ำที่ผู้ช่วยยื่นส่งมาให้อึกหนึ่ง พักผ่อนไม่ถึงสองนาที ผู้กำกับก็เรียกเขาเข้าประจำที่
“เทพบุตรเฟิงคะ รอเดี๋ยวค่ะ! คุณเพิ่งดื่มน้ำมา ฉันจะช่วยเติมหน้าให้นะ!” สาวน้อยผมสั้นในกองถ่ายคว้ากระเป๋าเครื่องสำอาง วิ่งไปหาเฟิงจิ้งอย่างรวดเร็ว เฟิงจิ้งพยักหน้าให้เธอ พลางพูดว่า “ขอบคุณ”
ฝีเท้าของสาวน้อยคนนั้นซวนเซไปหน่อยอย่างเห็นได้ชัด เธอหยิบลิปสติกออกมาจากกระเป๋า ค่อย ๆ เติมริมฝีปากที่แสนเซ็กซี่ของเฟิงจิ้งทีละนิด ๆ
‘กรี๊ด ๆ ๆ หล่อเหลือเกินจริง ๆ สามารถสัมผัสใบหน้าของเฟิงจิ้งได้แบบนี้ บรรพบุรุษของเธอจะต้องทำบุญเอาไว้มากแน่ ๆ’
ผู้กำกับรอเธออยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็บอกอย่างทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วว่า “พอแล้ว ใช้ได้แล้ว เธอคิดว่ากำลังทาสีกำแพงอยู่รึไงหา!” เด็กสาวพวกนี้ ช่างไม่รู้จักสำรวมเอาเสียเลย ดูซิ เขียนเอาไว้เสียเต็มหน้าว่าอยากจะเข้าไปใกล้ ๆ แล้วจูบสักฟอด
สาวน้อยชักมือกลับมาอย่างอาลัยอาวรณ์ กอดกระเป๋าเครื่องสำอางเดินหลีกไปด้านข้าง